วิธีตั้งร้านบน Google Map สร้างโลเคชั่นให้ลูกค้าเจอง่ายปักหมุดเพิ่มยอดขาย (2025)

ปัจจุบันหากธุรกิจของคุณไม่มีตัวตนบนโลกออนไลน์ ก็แทบจะเหมือนหายไปจากสายตาลูกค้า และหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดคือ Google Map ที่ช่วยให้ผู้คนค้นหาธุรกิจใกล้ตัวได้ง่าย เพียงไม่กี่คลิกก็สามารถนำพาลูกค้าใหม่เข้ามาที่ร้านได้ทันที

การ ตั้งร้านบน Google Map ไม่เพียงช่วยให้ร้านคุณถูกค้นหาเจอ แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าใหม่ และยังช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง ในปี 2025 ที่การแข่งขันสูงขึ้น ใครที่มีการจัดการข้อมูลร้านค้าได้ดีกว่าย่อมมีความได้เปรียบ หรือใช้ nudmap สร้างหมุดได้ทันทีบนแผนที่


ความสำคัญของ Google Map ต่อธุรกิจยุคดิจิทัล

หลายคนอาจมองว่า Google Map เป็นเพียงแค่แอปนำทาง แต่ความจริงแล้ว มันคือ แพลตฟอร์มการตลาดสำหรับธุรกิจท้องถิ่น

  • ข้อมูลจาก Google พบว่า กว่า 46% ของการค้นหาทั้งหมดมีเจตนาหาธุรกิจท้องถิ่น
  • ผู้ใช้มือถือส่วนใหญ่เมื่อค้นหาร้านค้า มักจะไปที่ร้านภายในเวลา 24 ชั่วโมง
  • ธุรกิจที่มีการปักหมุดบน Google Map และมีรีวิวเชิงบวก จะมีโอกาสสูงกว่าที่ลูกค้าจะตัดสินใจเลือก

Google Business Profile คืออะไร

การที่ร้านคุณจะขึ้นบน Google Map จำเป็นต้องใช้เครื่องมือชื่อ Google Business Profile (GBP) หรือที่รู้จักกันในชื่อเก่า “Google My Business”

  • เป็นระบบ ฟรี ที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจใส่ข้อมูล เช่น ชื่อร้าน ที่อยู่ เบอร์โทร เวลาทำการ และรูปภาพ
  • ข้อมูลจะปรากฏทั้งใน Google Search และ Google Maps
  • ช่วยให้ลูกค้า โทรหา, ขอเส้นทาง, หรือจองบริการ ได้ทันที

เตรียมความพร้อมก่อนตั้งร้านบน Google Map

ก่อนเริ่มปักหมุดร้าน ควรเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อม:

  • ชื่อธุรกิจที่แท้จริง (ไม่ใส่คีย์เวิร์ดเกินความจำเป็น)
  • หมวดหมู่ธุรกิจ เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านเสริมสวย
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น เบอร์โทร อีเมล เว็บไซต์
  • เวลาทำการที่แน่นอน เช่น เปิด–ปิดทุกวัน หรือวันหยุดประจำ
  • รูปภาพคุณภาพสูง ทั้งโลโก้ หน้าร้าน และบรรยากาศ

ขั้นตอนการตั้งร้านบน Google Map อย่างละเอียด

  1. สมัครบัญชี Google – หากคุณยังไม่มี Gmail ควรสมัครให้เรียบร้อย
  2. เข้าสู่ Google Business Profile – ไปที่ business.google.com
  3. คลิก “เพิ่มธุรกิจของคุณ” – กรอกชื่อร้าน หมวดหมู่ และรายละเอียดอื่นๆ
  4. ใส่ที่อยู่ร้านค้า – ปักหมุดตำแหน่งให้ถูกต้องที่สุด
  5. เพิ่มข้อมูลติดต่อ – เช่น เบอร์โทร เว็บไซต์ หรือ Line OA
  6. ยืนยันธุรกิจ – รับรหัสจาก Google ผ่านจดหมายหรือโทรศัพท์

วิธีปักหมุดร้านให้ตรงตำแหน่ง

การปักหมุด (Pin Location) ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะถ้าลูกค้าหาไม่เจอ หรือเจอแล้วแต่ตำแหน่งผิด ก็อาจทำให้พลาดโอกาสได้ทันทีไปดู วิธีปักหมุดร้านค้า google map

เทคนิคการปักหมุดที่แม่นยำ:

  • ขยายแผนที่ให้มากที่สุดก่อนวางหมุด เพื่อให้ตรงกับหน้าร้านจริง
  • หากร้านอยู่ในห้างหรืออาคาร ควรเลือกปักที่ ประตูทางเข้า ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาได้
  • หากใส่ที่อยู่แล้ว Google ระบุตำแหน่งผิด สามารถลากหมุดไปแก้ไขเองได้

👉 ปักหมุดแม่นยำ จะช่วยลดปัญหาลูกค้าหลงทาง และเพิ่มความน่าเชื่อถือของธุรกิจ


การยืนยันตัวตนธุรกิจ (Verification)

หลังจากใส่ข้อมูลครบถ้วน Google จะต้องการ ยืนยันว่าเป็นเจ้าของธุรกิจจริง โดยมีหลายวิธี ได้แก่:

  • รับรหัสทางจดหมาย – Google จะส่งโปสการ์ดมาที่ที่อยู่ร้าน ใช้เวลาประมาณ 7–14 วัน
  • ยืนยันผ่านโทรศัพท์หรือ SMS – ธุรกิจบางประเภทสามารถรับรหัสผ่านเบอร์โทรได้ทันที
  • ยืนยันผ่านอีเมล – กรณีบางร้านอาจได้รับตัวเลือกนี้เช่นกัน

หลังจากกรอกรหัสยืนยัน ร้านของคุณก็จะปรากฏบน Google Map แบบเป็นทางการ วิธีสร้างโลเคชั่น ร้าน

การเพิ่มข้อมูลเพื่อดึงดูดลูกค้า

เมื่อร้านถูกยืนยันแล้ว สิ่งสำคัญคือการใส่ข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อสร้างความน่าสนใจ:

  • เวลาทำการ – ควรใส่เวลาเปิด–ปิดที่ชัดเจน พร้อมวันหยุด
  • บริการและสินค้า – ระบุให้ละเอียด เช่น มีที่จอดรถ รับชำระผ่าน QR Code หรือมีบริการเดลิเวอรี่
  • ช่องทางการติดต่อ – เพิ่มเว็บไซต์ Facebook Page หรือ Line Official Account

ใส่รูปภาพและวิดีโอให้น่าสนใจ

รูปภาพคือสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาลูกค้า:

  • 📸 รูปหน้าร้าน – ช่วยให้ลูกค้ารู้ว่ามาถึงร้านจริง
  • 📸 รูปบรรยากาศ – ทำให้ลูกค้าสัมผัสถึงประสบการณ์ล่วงหน้า
  • 📸 รูปสินค้า/เมนู – โดยเฉพาะร้านอาหารและคาเฟ่ควรมีรูปเมนูสวยๆ
  • 🎥 วิดีโอแนะนำร้าน – เพิ่มความน่าสนใจมากกว่ารูปนิ่ง

👉 ธุรกิจที่มีรูปภาพครบถ้วนจะได้รับการคลิกดูมากกว่าร้านที่ไม่มีถึง 42%

เทคนิค Local SEO ทำให้ร้านติดอันดับแรกบน Google Map

การตั้งร้านบน Google Map เพียงอย่างเดียวอาจยังไม่พอ หากคุณอยากให้ร้านติดอันดับต้นๆ เวลาลูกค้าค้นหา ควรใช้เทคนิค Local SEO

เคล็ดลับสำคัญ:

  • ใช้ คีย์เวิร์ด ที่เกี่ยวข้องในชื่อร้านและคำอธิบาย (แต่ไม่ควรใส่เกินจริง)
  • อัปเดตข้อมูล เช่น เวลาทำการ โปรโมชั่น และรูปภาพเป็นประจำ
  • กระตุ้นให้ลูกค้า เขียนรีวิว และคุณควรตอบกลับเสมอ

รีวิวจากลูกค้าและการตอบกลับ

รีวิวมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจของลูกค้าใหม่

  • วิธีขอรีวิวอย่างเป็นธรรม: เช่น ติด QR Code ไว้ที่ร้านให้ลูกค้าสแกน
  • ควรตอบกลับรีวิว ทั้งเชิงบวกและลบ เพื่อแสดงว่าคุณใส่ใจ
  • การตอบรีวิวเชิงลบอย่างมืออาชีพ สามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์เชิงลบให้เป็นโอกาสได้

👉 ร้านที่มีรีวิวเชิงบวกจำนวนมากจะถูกจัดอันดับให้สูงขึ้นบน Google Map


ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการตั้งร้านบน Google Map

หลายธุรกิจทำพลาดเพราะขาดความใส่ใจ เช่น:

  • ❌ ใส่ข้อมูลผิดหรือไม่เป็นความจริง
  • ❌ ไม่อัปเดตเวลาทำการ ทำให้ลูกค้ามาแล้วเจอร้านปิด
  • ❌ ไม่ตอบรีวิว ทำให้ดูไม่ใส่ใจลูกค้า

การวิเคราะห์ผลลัพธ์จาก Google Map Insights

Google Business Profile มีฟีเจอร์ Insights ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า:

  • จำนวนครั้งที่ลูกค้าค้นหาร้านคุณ
  • จำนวนครั้งที่ลูกค้ากดขอเส้นทาง
  • จำนวนครั้งที่ลูกค้ากดโทรหาคุณ

👉 ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น


กรณีศึกษาธุรกิจที่ประสบความสำเร็จบน Google Map

  • ร้านอาหาร: การใส่เมนูพร้อมรูปภาพ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น
  • คาเฟ่: การอัปเดตโปรโมชั่นและกิจกรรม ทำให้ลูกค้ากลับมาเยี่ยมชมบ่อย
  • ร้านเสริมสวย: รีวิวเชิงบวกและการตอบกลับที่สุภาพ ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ใช่ ฟรี 100% ไม่มีค่าใช้จ่าย

ได้ สามารถเลือก “บริการนอกสถานที่” แทนการใส่ที่อยู่จริง

ถ้าเป็นการยืนยันทางจดหมาย ประมาณ 7–14 วัน

ได้ แต่ควรเปลี่ยนไม่บ่อยเกินไป เพราะอาจกระทบความน่าเชื่อถือ

ควรขอรีวิวจากลูกค้าจริง ไม่ใช้รีวิวปลอมเด็ดขาด

ต้องทำการยืนยันตัวตนตามวิธีการของทาง google หรือใช้นัดแมพ กด download

Scroll to Top